2. ความสว่างและชีวิต

คุณสมบัติอย่างหนึ่งของแสงคือ มันสามารถกระจายตัวอย่างไม่มีสิ้นสุดโดยที่มันเองไม่อ่อนกำลังลงเลยแม้แต่น้อย เทียนไขเล่มหนึ่งอาจจุดประกายให้เทียนไขอีกนับล้านเล่มโดยที่ตัวมันยังคงสว่างเท่าเดิม ดวงอาทิตย์สาดแสงให้มนุษย์ได้อบอุ่นกันถ้วนหน้า ทุกวันนี้แต่ละคนสามารถรับประโยชน์จากแสงอาทิตย์ได้พอๆ กับสมัยก่อนตอนที่ประชากรโลกมีเพียงครึ่งหนึ่งของปัจจุบัน ดวงอาทิตย์ส่องแสงมายังทุกคนอย่างเต็มกำลัง แต่ปริมาณแสงและความร้อนของมันยังคงเท่าเดิมประหนึ่งว่าแสงนั้นไม่ได้ถูกกระจายออกไปให้ใครเลย {LBF 9.1}

พระเยซูคริสต์ทรงเป็น “ดวงอาทิตย์แห่งความชอบธรรม” (มาลาคี 4:2) และทรงเป็นความสว่างของโลก แสงสว่างที่พระองค์ประทานให้นั้นคือชีวิตของพระองค์เอง ตามที่เขียนไว้ในหนังสือยอห์นว่า “พระองค์ทรงเป็นแหล่งชีวิต และชีวิตนั้นเป็นความสว่างของมนุษย์” (ยอห์น 1:4) พระองค์ตรัสว่า “คนที่ตามเรามาจะไม่ต้องเดินในความมืด แต่จะมีความสว่างแห่งชีวิต” (ยอห์น 8:12) พระองค์ทรงสละพระชนม์ชีพของพระองค์เพื่อมนุษย์โลก ทุกคนที่เชื่อวางใจในพระองค์ได้รับชีวิตของพระองค์ และได้รับความรอดโดยชีวิตนั้น เหมือนกับแสงเทียนที่ไม่ได้หรี่ลงแม้ถูกส่งต่อไปยังเทียนไขเล่มอื่นๆ เป็นจำนวนมาก ฉันใดก็ฉันนั้น แม้ว่าพระคริสต์ประทานชีวิตให้แก่คนมากมาย ชีวิตของพระองค์ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย ทุกคนสามารถรับชีวิตของพระองค์ได้อย่างเต็มเปี่ยม {LBF 9.2}

“ความสว่างส่องเข้ามาในความมืด และความมืดไม่อาจเอาชนะความสว่างได้” (ยอห์น 1:5) ไม่มีสิ่งใดสามารถดับความสว่างของพระองค์ได้ ซาตานไม่อาจพรากเอาความสว่างของพระองค์ออกไป เพราะมันไม่สามารถทดลองพระองค์ให้ทำบาป แม้ตอนที่พระองค์ทรงสละพระชนม์ พระองค์ยังคงมีชีวิตเหลืออยู่เท่าเดิม ชีวิตของพระองค์ชนะความตาย ซึ่งเป็นชีวิตที่ไม่สิ้นสุด “ฉะนั้น พระองค์จึงทรงสามารถช่วยบรรดาผู้ที่มาถึงพระเจ้าโดยทางพระองค์ได้อย่างสมบูรณ์” (ฮีบรู 7:25 TNCV) พระคริสต์จะทรงดำรงชีวิตของพระองค์อย่างบริบูรณ์อยู่ในทุกคนที่มอบชีวิตให้กับพระองค์ นี่คือความล้ำลึกแห่งข่าวประเสริฐ {LBF 9.3}