40. ศาสนาแห่งปัจจุบัน
“ข้าพเจ้าถูกตรึงร่วมกับพระคริสต์แล้ว ข้าพเจ้าเองไม่มีชีวิตอยู่ต่อไป แต่พระคริสต์ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า ชีวิตซึ่งข้าพเจ้าดำเนินอยู่ในร่างกายขณะนี้ ข้าพเจ้าดำเนินอยู่โดยความเชื่อในพระบุตรของพระเจ้าผู้ได้ทรงรักข้าพเจ้า และได้ทรงสละพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า” (กาลาเทีย 2:20) “ผู้ที่เกิดจากพระเจ้าไม่ทำบาป เพราะเชื้อของพระเจ้าอยู่ในคนนั้นและเขาทำบาปไม่ได้ เพราะเขาเกิดจากพระเจ้า” “ทุกคนที่เกิดจากพระเจ้าก็มีชัยเหนือโลก และความเชื่อของเรานี่แหละเป็นชัยชนะที่มีชัยเหนือโลก” (1 ยอห์น 3:9; 5:4) {LBF 125.1}
จากข้อพระคัมภีร์เหล่านี้ และข้ออื่นๆ ที่อาจยกมา เราพอจะเห็นได้ว่าศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่เล็งถึงปัจจุบัน ในชีวิตคริสเตียนมีเพียงแต่ปัจจุบันที่มีความหมาย ส่วนอดีตจะมีความหมายตรงที่มันส่งผลต่อปัจจุบันเท่านั้น อนาคตก็เช่นกัน {LBF 125.2}
การบังเกิดจากพระเจ้าคือการรับชีวิตจากพระองค์ เหมือนที่เรารับชีวิตจากพ่อแม่เมื่อเราเกิดมา แต่การบังเกิดใหม่ต่างกันที่มันเป็นกระบวนการ จึงเป็นเรื่องของปัจจุบันเสมอ เป็นชีวิตที่มาจากลำต้นซึ่งแผ่ซ่านไปยังกิ่งก้าน ก็คือเรานั่นเอง (ดู ยอห์น 15:1) ดังนั้นชีวิตของพระเจ้าจึงหลั่งไหลมาสู่เราอย่างต่อเนื่อง “เราเป็นเถาองุ่น พวกท่านเป็นแขนง คนที่ติดสนิทอยู่กับเรา และเราติดสนิทอยู่กับเขา คนนั้นจะเกิดผลมาก เพราะว่าถ้าแยกจากเราแล้วพวกท่านจะทำสิ่งใดไม่ได้เลย” (ยอห์น 15:5) {LBF 125.3}
ถ้าศาสนาเป็นเรื่องของอดีต เราจะเพ่งตามองแต่ในอดีตและไม่ได้มองไปข้างหน้า ในขณะเดียวกัน ถ้าเป็นเรื่องของอนาคต เราก็จะรออย่างเดียวเพื่อให้ถึงเวลาที่กำหนด ในทั้งสองกรณีนี้เราจะไม่เติบโต นี่คือปัญหาใหญ่ของคนจำนวนมากที่นับถือศาสนาคริสต์ ถ้าไม่มองในอดีตก็เฝ้ารออนาคต สำหรับคนที่มองในอดีต เขามักจะใช้เหตุการณ์ในอดีตเป็นเครื่องวัดความเป็นไปได้สำหรับชีวิตคริสเตียนของเขา ถ้าเขาเคยมีประสบการณ์กับพระเจ้าอย่างแท้จริงแต่ล้มเหลวทีหลัง เขาก็จะท้อถอยและสรุปว่าประสบการณ์นั้นเขาคิดไปเอง ส่วนคนที่ปักใจอยู่กับอนาคตก็จะรอเวลาที่จะไม่มีวันมาถึง เพราะคนเราอยู่ได้แต่ในปัจจุบัน {LBF 125.4}
ศาสนาคริสต์เป็นเรื่องของปัจจุบัน เพราะพระเจ้าทรงรับเราในสภาพที่เราเป็นอยู่ ฉะนั้นเราไม่ต้องรอคอยหรือรู้สึกท้อแท้ พระองค์ทรงมีพระประสงค์ที่จะช่วยเราให้รอด ทรงทำได้แต่เฉพาะการรับเราในสภาพที่เราเป็นอยู่ในขณะนี้ และที่เราจะเป็นอยู่ในทุกๆ เวลาต่อไปในชีวิต ทุกเสี้ยววินาทีคือ “ปัจจุบัน” เมื่อเวลานั้นมาถึง ถ้าพระองค์ไม่สามารถช่วยเราให้รอดในปัจจุบันอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ ก็จะไม่ทรงสามารถช่วยเราได้เลย แต่พระองค์ทรงให้คำมั่นสัญญาไว้ดังนี้ว่า “พระองค์จึงทรงสามารถช่วยคนทั้งหลายที่เข้ามาใกล้พระเจ้าโดยทางพระองค์นั้นอย่างเต็มที่” (ฮีบรู 7:25) {LBF 126.1}
ดังนั้นสิ่งเดียวที่เราควรทำคือมองไปที่พระเยซูเดี๋ยวนี้และเชื่อวางใจในพระองค์ ณ บัดนี้ โดยไม่คำนึงถึงความล้มเหลวในอดีตหรือความหวังในอนาคต ชีวิตคริสเตียนมีจุดเริ่มต้นอยู่เพียงจุดเดียวเท่านั้นคือ “เดี๋ยวนี้” เวลาเดียวที่เป็นของเราคือเวลานี้แหละ การดำเนินชีวิตอยู่ในปัจจุบันไม่ใช่การคาดหวังในเวลานี้สำหรับสิ่งที่จะได้รับหรือตั้งปณิธานในขณะนี้สำหรับอนาคต แต่เป็นการเชื่อและรับเอาในเวลาปัจจุบันทันด่วนนี้เลย ให้มองไปที่พระคริสต์ ณ ตอนนี้ เพราะการล้มเหลวจะเกิดขึ้นเมื่อเราลืมที่จะอยู่ในปัจจุบันและลืมที่จะพึ่งในพระคุณของพระเยซูคริสต์ {LBF 126.2}