อยู่ด้วยความเชื่อ46. ความเข้มแข็งและความอ่อนแอ

46. ความเข้มแข็งและความอ่อนแอ

เมื่อเราเข้มแข็งเราก็อ่อนแอในเวลาเดียวกัน เพราะในจุดที่เราเข้มแข็งเราก็อ่อนแออยู่ดี มิฉะนั้นเราก็จะอวดได้ มนุษย์เรามักจะอวดในจุดดีจุดเด่นของตน ความดีความชอบนั้นโดดเด่นก็ต่อเมื่อเปรียบเทียบกับจุดด้อยในอุปนิสัยของเรา แต่เมื่อเทียบกับอำนาจแห่งความชั่วแล้ว เราไม่มีกำลังอะไรเลย มีแต่ความอ่อนแอในระดับต่างๆ {LBF 143.1}

คนเรามักจะล้มเหลวด้านศีลธรรมตรงจุดเด่นของตน จุดเด่นของเปโตรคือความกล้าหาญชาญชัย แต่เขากลับหวั่นไหวเมื่ออยู่ในศาลของปีลาต แทนที่จะยอมรับพระเยซูต่อหน้าคนอื่น ส่วนซาโลมอนเป็นคนที่มีสติปัญญาปราดเปรื่องที่สุดในโลก แต่มีภาพลักษณ์อันใดเล่าที่แสดงถึงความโง่เขลาเบาปัญญาไปกว่ากษัตริย์อิสราเอลที่ถูกรายล้อมไปด้วยมเหสี 700 คนกับนางสนมอีก 300 คน และรับฟังคำแนะนำของนางเหล่านั้นจนเป็นเหตุให้ท่านนำคนของพระเจ้าไปสู่การกราบไหว้รูปเคารพ ส่วนโมเสสก็มีจุดเด่นเรื่องความนอบน้อมถ่อมตน แต่เมื่อท่านอยู่เมรีบาห์ท่านตวาดใส่ประชาชนด้วยอารมณ์แข็งกร้าวว่า “เจ้าพวกกบฏจงฟัง จะให้เราเอาน้ำออกจากหินนี้ให้พวกเจ้าดื่มหรือ” (กันดารวิถี 20:10) {LBF 143.2}

คนเรามักจะอาศัยจุดดีจุดเด่นของตน แต่ทุกคนที่พึ่งตัวเองก็อ่อนแอ เรามักจะเน้นเรื่องการระวังจุดอ่อน แต่ที่จริงแล้ว จุดแข็งของคนเราก็ต้องการการเฝ้าระวังไม้แพ้กัน เพราะจริงๆ แล้วเรามีความอ่อนแอในทุกด้าน และจุดที่เราพึ่งพาตัวเองมากที่สุดกลับเป็นจุดที่อ่อนแอที่สุด ถ้าไม่มีการระแวดระวังจุดอ่อนในทุกด้านก็เท่ากับการไม่เฝ้าระวังเลย ในขณะเดียวกันเราต้องตระหนักว่า สิ่งที่ปกป้องเรานั้นไม่ใช่คำปณิธานหรือความวิริยอุตสาหะ แต่เป็นความเชื่อต่างหาก สิ่งที่ดับลูกศรเพลิงของพญามารคือโล่แห่งความเชื่อ (ดู เอเฟซัส 6:16) ยุทธภัณฑ์ทั้งชุดที่พระเจ้าทรงเตรียมไว้ให้เรานั้นประกอบด้วยฤทธานุภาพของพระองค์ และไม่ได้มาจากมนุษย์เลย {LBF 143.3}

เราไม่ต้องรู้สึกท้อถอยที่พบว่าตัวเองอ่อนแอในจุดที่เคยคิดว่าเข้มแข็ง เพราะเราไม่ได้พึ่งพาตนเอง แต่พึ่งพาพระเจ้า จุดที่อ่อนแอจึงกลายเป็นจุดที่เข้มแข็ง นี่คือประสบการณ์ของอาจารย์เปาโลเมื่อท่านเขียนถึงคริสเตียนในเมืองโครินธ์ ให้เราเพียงแต่เอาความอ่อนแอของเรามาประสานเข้ากับความเข้มแข็งของพระเจ้า แล้วเราจะกล่าวเหมือนกับอาจารย์เปาโลได้ว่า “เพราะเหตุนี้ เพื่อเห็นแก่พระคริสต์ ข้าพเจ้าจึงพอใจในบรรดาความอ่อนแอ ในการถูกเยาะเย้ยต่างๆ ในความลำบาก ในการถูกข่มเหง ในเหตุวิบัติต่างๆ เพราะว่าข้าพเจ้าอ่อนแอเมื่อใด ข้าพเจ้าก็จะเข้มแข็งมากเมื่อนั้น” (2 โครินธ์ 12:10) {LBF 144.1}

พระเจ้าทรงต้องสำแดงให้เราเห็นถึงความอ่อนแอของตัวเราเองก่อนที่พระองค์จะทรงช่วยเราให้รอด ส่วนมารซาตานหลอกล่อให้หลงเชื่อว่าเราเข้มแข็งเพื่อเราจะพึ่งพาตนเองจนสะดุดล้มและพินาศในที่สุด เมื่อรู้สึกเข้มแข็งจงระลึกว่า “คนที่คิดว่าตัวเองมั่นคงดีแล้ว ก็จงระวังไม่ให้ล้มลง” (1 โครินธ์ 10:12) เมื่อใดที่เรารู้สึกว่าอ่อนแอเกินที่จะช่วยเหลือตนเองได้ ก็จงรู้เถิดว่านั่นคือจุดที่จะนำไปสู่ชัยชนะ จุดที่อันตรายคือการที่เราไม่ตระหนักถึงความอ่อนแอของตนเท่าที่ควร แต่ที่น่าเป็นห่วงกว่านั้นคือคนเราแม้จะอ่อนแอจนถึงที่สุดก็ยังมีกำลังเหลือไว้พอที่จะปฏิเสธพระวิญญาณบริสุทธิ์และกีดกันไม่ให้พระเจ้าประกอบกิจในชีวิตของเรา แต่ถ้าเราอ่อนแอพอที่จะยอมจำนนต่อพระเจ้าอย่างสิ้นเชิง พระองค์จะประทานกำลังให้ในจุดที่เราต้องการ และเราจะเข้มแข็งเหมือนที่พระองค์ทรงเข้มแข็ง เพราะเราจะได้รับกำลังจากพระองค์ {LBF 144.2}