15. เปลี่ยนเป็นคนละคน
เมื่อคำนึงถึงเรื่องที่จะได้รับฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ทำให้รู้สึกถึงการประเล้าประโลมใจเป็นอย่างยิ่ง และก็ไม่แปลก เพราะพระวิญญาณบริสุทธิ์คือ “พระองค์ผู้ปลอบประโลม” (ยอห์น 16:7 TKJV) แต่การปลอบประโลมนั้นเห็นได้จากผลของมันดังตัวอย่างเหตุการณ์ที่ซามูเอลเจิมซาอูลเป็นกษัตริย์เหนือชนชาติอิสราเอล {LBF 45.1}
“ท่านจะพบผู้เผยพระวจนะหมู่หนึ่งกำลังลงมาจากปูชนียสถานสูงถือพิณใหญ่ รำมะนา ปี่ พิณเขาคู่นำหน้ามา กำลังเผยพระวจนะเรื่อยมา แล้วพระวิญญาณของพระเจ้าจะมาสถิตกับท่านอย่างมาก และท่านจะเผยพระวจนะกับคนเหล่านั้น เปลี่ยนเป็นคนละคน” (1 ซามูเอล 10:5–6 TH1971) {LBF 45.2}
ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเปลี่ยนผู้ที่ยอมจำนนต่อพระองค์ให้เป็นคนใหม่ คนเก่าเต็มไปด้วยความบาป เพราะเราอยู่ฝ่ายเนื้อหนังโดยธรรมชาติ เราเคยทำสิ่งที่ชั่วร้ายมามากมาย เพราะเรามีธรรมชาติของความบาป เมื่อระลึกถึงบาปที่ได้กระทำก็รู้สึกสะท้านใจ บ่อยครั้งที่เราต้องอับอายและใจหดหู่เพราะตระหนักว่าเรามีธรรมชาติแห่งความบาป ซาตานเองก็หยิบยกเรื่องความบาปที่เราเคยทำมาซ้ำเติม มันจึงมีอำนาจเหนือธรรมชาติที่เป็นบาปของเรามากยิ่งขึ้น {LBF 45.3}
แต่บัดนี้ข่าวประเสริฐมายังพวกเราว่า เมื่อยอมจำนนต่อพระวิญญาณของพระเจ้าแล้ว พระองค์จะทรงเปลี่ยนเราให้เป็นคนละคน “ให้สวมสภาพใหม่ ซึ่งได้รับการสร้างขึ้นตามแบบของพระเจ้าในความชอบธรรมและความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง” (เอเฟซัส 4:24) คนใหม่นี้จะแทนที่ “ตัวเก่าของพวกท่านที่คู่กับการประพฤติแบบเดิม ซึ่งถูกตัณหาล่อลวงทำให้พินาศไป” (เอเฟซัส 4:22) คนใหม่นี้ “กำลังได้รับการสร้างขึ้นใหม่ตามพระฉายาของพระองค์ผู้ทรงสร้าง” (โคโลสี 3:10) ซึ่งการสร้างใหม่นี้ก็เกิดขึ้น “ทุกๆ วัน” (2 โครินธ์ 4:16) {LBF 45.4}
เมื่อเรายอมจำนน การเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้น เมื่อยอมจำนนอย่างต่อเนื่อง ก็จะได้รับการสร้างใหม่อย่างต่อเนื่อง แล้วซาตานก็มาหาเราด้วยกลอุบายเดิมๆ มันมาซ้ำเติมเราถึงรายการความบาปอันยาวเหยียดที่เราเคยกระทำ แต่มาครั้งนี้เราไม่สะทกสะท้าน เพราะเราสามารถตอบมันได้ว่า ‘เจ้าเข้าใจผิดแล้ว คนเดิมที่เคยอยู่ที่นี่ และทำบาปมากมายดังที่เจ้าว่านั้น เขาได้ตายไปแล้ว และข้าไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเขาอีก ถ้าเจ้าจะมาคิดบัญชีกับเขา ข้าก็ไม่เกี่ยว’ ไม่มี “ความหวาดกลัวในการรอคอยการพิพากษา” อีกต่อไปแล้ว (ฮีบรู 10:27) เราจะไม่เข้าสู่การพิพากษา เพราะเราได้ “ผ่านพ้นความตายไปสู่ชีวิตแล้ว” (ยอห์น 5:24) {LBF 46.1}
มารซาตานลองใช้การทดลองแบบเดิมๆ ด้วยสิ่งที่ยั่วเย้าฝ่ายเนื้อหนัง แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อการทดลองเหล่านั้นไม่เป็นผล มันเคยหลอกล่อเราอย่างง่ายดาย แต่เมื่อเราเป็นคนใหม่แล้ว มันจึงแปลกใจที่ทดลองเราให้ทำบาปไม่สำเร็จ และเราก็ไม่ได้ถูกพิพากษาลงโทษ เพราะเราดำเนินชีวิตอยู่ในพระวิญญาณ {LBF 46.2}
คนใหม่คนนี้ไม่เคยทำบาป เพราะเขา “ได้รับการสร้างขึ้นตามแบบของพระเจ้าในความชอบธรรมและความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง” (เอเฟซัส 4:24) พระเจ้าทรงรักษาเขาให้คงสภาพใหม่นี้ได้ตลอดไป มีหลายครั้งที่เราอยากหนีตัวเองไปให้พ้น และบัดนี้ก็เป็นไปได้แล้ว พระวจนะของพระเจ้ามายังเราว่า จง “ปลดวิสัยมนุษย์เก่ากับพฤติกรรมของมนุษย์นั้น” (โคโลสี 3:9) และด้วยฤทธิ์เดชแห่งพระวจนะเราจึงสามารถปลดวิสัยมนุษย์เก่านั้นได้ ซึ่งคนใหม่ทำบาปไม่ได้ เพราะถูกสร้างตามพระฉายาของพระเจ้า ส่วนหน้าที่ของเราในแต่ละวันก็คือการประกาศด้วยใจพร้อมกับอัครทูตเปาโลว่า {LBF 46.3}
“โดยธรรมบัญญัตินั้น ข้าพเจ้าได้ตายต่อธรรมบัญญัติแล้ว เพื่อจะได้มีชีวิตอยู่ต่อพระเจ้า ข้าพเจ้าถูกตรึงร่วมกับพระคริสต์แล้ว ข้าพเจ้าเองไม่มีชีวิตอยู่ต่อไป แต่พระคริสต์ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า ชีวิตซึ่งข้าพเจ้าดำเนินอยู่ในร่างกายขณะนี้ ข้าพเจ้าดำเนินอยู่โดยความเชื่อในพระบุตรของพระเจ้าผู้ได้ทรงรักข้าพเจ้า และได้ทรงสละพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า” (กาลาเทีย 2:19–20) {LBF 46.4}