32. อย่าลืมรับประทาน
‘ใครล่ะจะลืมกิน!’ นายปณิธานถาม ‘ถึงพยายามลืมก็ลืมไม่ได้หรอก เพราะการกินเป็นเรื่องที่ผมชอบอยู่แล้ว อีกอย่าง เวลาไม่ได้กินผมจะมึนศีรษะ อ่อนเพลีย บางทีก็รู้สึกเหมือนจะเป็นลม อดมื้อเดียวก็แย่แล้ว ทำงานก็ไม่ไหว อยู่ก็ไม่ได้เลย ไม่ต้องห่วงเรื่องการกิน ผมไม่ลืมหรอก’ {LBF 101.1}
ที่กล่าวมาก็จริงอยู่ แต่ท่านรู้ไหมว่าคนเรากินอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ถ้าเรากินอาหารถูกหลัก มีสารอาหารครบถ้วน เราก็จะแข็งแรง มีสุขภาพดี แต่ถ้ากินอาหารที่ขาดวิตามินเราก็จะป่วยกระเสาะกระแสะ ในขณะเดียวกันแม้คนเราจะรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน มีธัญพืชหลากหลายและผักผลไม้นานาชนิด สุดท้ายแล้วก็ได้แต่สุขภาพกับการต่อชีวิตออกไปไม่กี่ปี ไม่ได้ช่วยให้เราเป็นคนสมบูรณ์แบบไร้ที่ติแต่อย่างใด พอหมดอายุขัยชีวิตก็จบแค่นั้น {LBF 101.2}
พระเจ้าตรัสว่า เราไม่สามารถดำรงชีวิตด้วยอาหารฝ่ายกายเพียงอย่างเดียว แต่ต้องรับประทานอาหารสวรรค์เป็นประจำทุกวันด้วย อาหารฝ่ายกายเหมือนสิ่งของในโลกทั่วไป คือไม่มีชีวิตในตัวมันเอง ไม่ช้าก็ดับสูญไป มันไม่มีชีวิตที่จะมอบให้แก่เรา แต่อาหารแห่งชีวิตที่มาจากสวรรค์นั้นเปี่ยมล้นด้วยชีวิตที่จะให้เราได้ คือชีวิตนิรันดร์ ถ้ารับประทานทุกวัน ก็จะเติบโตขึ้นไปสู่ความดีที่พร้อมบริบูรณ์เหมือนพระเยซู แล้วเราจะปรารถนาที่จะทำแต่สิ่งที่บริสุทธิ์และดีงาม อาหารจากสวรรค์จะเสริมกำลังเรี่ยวแรงให้ทำตามความปรารถนาดีของเรา เรารู้ดีว่าเราไม่ได้รับกำลังและแรงบันดาลใจเช่นนี้จากอาหารฝ่ายกาย เพราะลำพังกำลังของเราเอง เราพยายามทำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่ก็ล้มเหลวอยู่เรื่อยไป {LBF 101.3}
พระเจ้าจะทรงโปรยอาหารแห่งสวรรค์ลงมาดังน้ำค้างเหมือนที่ประทานมานาให้แก่คนอิสราเอลในสมัยก่อนหรือไม่ คำตอบคือไม่ เพราะพระองค์ประทานให้เราแล้ว และอาหารแห่งสวรรค์ก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม {LBF 102.1}
พระเจ้าตรัสว่า เราจะพบอาหารแห่งสวรรค์เกินกว่าที่ใจปรารถนาในพระคัมภีร์ พระวจนะแต่ละคำที่เราอ่านในพระคัมภีร์ไม่เหมือนข้อความในหนังสืออื่นใดที่ปราศจากชีวิต พระเยซูตรัสถึงพระวจนะอันเต็มไปด้วยชีวิตของพระองค์ว่า “เราเป็นอาหารดำรงชีวิตซึ่งลงมาจากสวรรค์” (ยอห์น 6:51) {LBF 102.2}
ชีวิตของพระเยซูอยู่ในพระวจนะ ดังนั้นเราจะรับพระเยซู คืออาหารที่มาจากสวรรค์ด้วยการอ่านพระวจนะนั้น เราจะ ‘รับประทาน’ พระวจนะได้ และให้มันเป็นส่วนหนึ่งของเราด้วยการอ่านเป็นประจำทุกวัน โดยเชื่อวางใจในพระวจนะนั้นว่าเป็นพระดำรัสของพระบิดาที่ตรัสกับเรา โดยรักพระวจนะทุกคำ และเชื่อว่าพระเยซูจะเข้ามาสถิตอยู่ในใจของเราผ่านพระวจนะนั้น {LBF 102.3}
เมื่อพระเยซูสถิตอยู่ในใจของเรา พระวจนะของพระองค์ที่ทรงอานุภาพและที่สร้างจักรวาลจะไม่ปกป้องเราจากการทำบาปหรือ แน่นอนพระวจนะจะช่วยเสริมกำลังให้เราพูดจาสุภาพและกระทำภารกิจด้วยความรัก บางคนอาจถามว่า ‘เป็นไปได้อย่างไรที่พระเยซูจะเข้ามาในใจพร้อมด้วยพระวจนะ ข้าพเจ้าจะรับพระองค์ด้วยการรับเอาพระวจนะได้อย่างไร’ นั่นเป็นคำถามที่ผู้เขียนตอบไม่ได้เช่นกัน แต่เราไม่จำเป็นต้องรู้วิธีการเหล่านั้น พระเยซูตรัสว่าพระองค์จะเป็นผู้กระทำเอง นั่นก็เพียงพอแล้ว เรารู้ว่าพระองค์ได้กระทำแล้วและดำเนินชีวิตของพระองค์อยู่ในใจของเราขณะที่เราอ่านพระวจนะของพระองค์เป็นประจำทุกวัน {LBF 102.4}
จงรักและใส่ใจในพระคัมภีร์ และตั้งใจอ่านให้มากกว่าหนังสืออื่นๆ ขอย้ำว่า จงรับประทานอาหารที่มาจากสวรรค์ทุกวัน เราจำเป็นต้องมีอาหารนี้มากกว่าอาหารฝ่ายกาย ถ้าอ่านพระคัมภีร์เพียงสัปดาห์ละครั้ง จะไม่สามารถรักษาจิตวิญญาณของเราไว้สำหรับสวรรค์ได้ เช่นเดียวกับการรับประทานอาหารอาทิตย์ละครั้งคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน ฉะนั้นจงอย่าลืมรับประทานอาหารฝ่ายจิตวิญญาณ! {LBF 102.5}